23ก.พ.2558 นายธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา กล่าวถึงการนัดประชุมใหญ่ศาลฎีกา เพื่อเลือกผู้พิพากษาระดับศาลฎีกา 9 คน เป็นองค์คณะฯ รับผิดชอบพิจารณาพิพากษาคดีจำนำข้าว ที่นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 เป็นจำเลยต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ในวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.) เวลา 09.30 น. ศาลฎีกา จะจัดประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้งหมด ที่อาคารศาล ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อเลือกผู้พิพากษาองค์คณะ โดยเป็นการประชุมลงมติลับ ไม่อนุญาตผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไปภายในห้องประชุม แต่
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นแล้ว นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา จะจัดทำเอกสารรายชื่อขององค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน ให้สื่อมวลชนต่อไป ส่วนเมื่อได้องค์คณะผู้พิพากษาแล้ว จะนัดประชุมคัดเลือกผู้พิพากษา 1 ใน 9 คนเป็นเจ้าของสำนวนเมื่อใดนั้น เลขานุการฯ จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้พิพากษาศาลฎีกา ที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะนี้ มีจำนวนกว่า 170 คน ขณะที่การประชุมใหญ่ศาลฎีกาดังกล่าว จะใช้วิธีลงคะแนนลับ จากนั้นเมื่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเลือกองค์คณะผู้พิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว ภายใน 5 วัน ก็จะปิดประกาศรายชื่อผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะ 9 คน ที่อาคารศาลฎีกา ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อให้คู่ความทราบและมีโอกาสคัดค้านผู้พิพากษาตามขั้นตอน
ขณะที่เมื่อองค์คณะผู้พิพากษาทั้งเก้า ได้เลือกผู้พิพากษา 1 คนเป็นเจ้าของสำนวนแล้ว หลังจากนั้นองค์คณะฯ จะร่วมกันพิจารณาคำฟ้องของอัยการสูงสุด โจทก์ว่าเป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่จะประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาพิพากษาได้หรือไม่ ซึ่งหากองค์คณะ ฯ มีคำสั่งประทับรับฟ้องแล้ว จะกำหนดวันพิจารณาคดีครั้งแรกเพื่อสอบคำให้การจำเลย โดยศาลจะส่งสำเนาคำฟ้องให้จำเลย พร้อมส่งหมายแจ้งวันนัดให้จำเลยทราบ ซึ่งหากศาลมีคำสั่งรับฟ้องและกำหนดวันพิจารณาคดีครั้งแรกแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายก ฯ จะต้องเดินทางมายังศาลฎีกาฯ แสดงตัวต่อศาลเพื่อให้การว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธ พร้อมยื่นประกันตัวต่อไป
‘สุรพงษ์’ลั่นเป็นไปไม่ได้บิ๊กตู่คุยแม้ว
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีการอ้างแหล่งข่าวคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า พ.ต.ท.ทักษิณพยายามติดต่อเจรจากับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ว่า เชื่อว่ามีความพยายามปล่อยข่าวเพื่อทำให้ดูเหมือนว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณมีความผิดตามที่ถูกตั้งข้อกล่าวหา จึงต้องให้พี่ชายช่วยพูดให้ ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาลเลย
ทั้งนี้คนปล่อยข่าวไม่น่าจะเป็นผู้หวังดีกับพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้นขอให้แหล่งข่าวคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณหยุดให้ข่าวได้แล้ว และถ้าเป็นคนใกล้ชิดพ.ต.ท.ทักษิณจริง แน่จริง ก็ขอให้ระบุชื่อออกมาเลยว่าเป็นใคร ส่วนกรณีที่โพลหลายสำนักที่สำรวจผลออกมาว่าต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์เจรจากับพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ขอให้โพลสำนักต่างๆ ได้โปรดเลิกยุให้ทั้ง 2 คนคุยกันได้เลย เพราะมันเป็นไปไม่ได้ มีแต่จะสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคม
เพื่อไทยชี้ต้องสร้างปรองดองให้ได้ก่อนเลือกตั้ง
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงผลโพลล์ที่สนับสนุนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ คุยกับพล.อ.ประยุทธ์เพื่อหาทางออกให้ประเทศว่า บ้านเมืองที่มีปัญหาไม่ปรองดองไม่ใช่เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ต้องการปรองดองต้องเชิญทุกฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งและฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมาหาทางออกร่วมกันให้ได้ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ โดยยึดหลักให้อภัยเมตตากัน และใช้อำนาจพิเศษของหัวหน้า คสช.ในรัฐธรรมนูญมาตรา44 โดยออกเป็นคำสั่ง ทำให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมอย่างเท่าเทียมกัน แต่ต้องไม่ใช่ข้อเสนอที่ให้อภัยโทษโดยให้ผู้ที่ถูกกระทำเข้ามายังกระบวนการการรับผิดก่อน แบบนั้นคงไม่ได้ เพราะผู้ถูกกระทำอาจจะรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม บางฝ่ายรู้สึกเพียงว่าที่ออกมาเรียกร้องเพราะความเห็นต่างทางการเมือง แต่กลายเป็นมีคดีอาญาเกิดขึ้น เราจึงควรใช้หลักอภัยกันหรือจะใช้คำว่านิรโทษกรรมก็ว่าไป และบรรยากาศปรองดองควรจะสร้างให้ได้ก่อนการเลือกตั้งเกิดขึ้น
อุทัยทำจม.เปิดผนึกถึงคสช จี้.จัดเลือกตั้งตามโรดแม็พ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหนังสือจดหมายเปิดผนึกถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เกี่ยวกับข้อเสนอในการ ปฏิรูปประเทศว่า คสช.ต้องวางแนวทางการปฏิรูปประเทศให้อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และอย่าสงสัยว่าราษฎรยังไม่พร้อมที่จะเป็นประชาธิปไตย เมื่อท่านยึดอำนาจมาแล้วหากไม่ทำตามที่ตนแนะนำ ความแตกแยกก็จะซึมลึกในหมู่ประชาชนจนยากเกินกว่าที่จะแก้ไข ไม่ใช่เป็นการปรามาศ แต่ตนขอประกาศว่า “ท่านเอาไม่อยู่หรอก” ทั้งนี้ คสช.ต้องยึดมั่นในคำพูดว่าจะดำเนินการทางการเมืองตามโร้ดแมพที่ได้ประกาศไว้ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะให้มีการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยให้สำเร็จ หากทำตามสัญญาข้อนี้ไม่สำเร็จควรใช้อำนาจหยิบยกนำรัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่ง ที่ดีที่สุด นำมาแก้ไขแล้วนำไปประกาศใช้ให้มีการเลือกตั้งทันทีตามโร้ดแมพ ความปรองดองและความสามัคคีจนเกิดขึ้นได้
นายอุทัย ยังเสนอแนวทางการปฏิรูปการเมืองว่า จะต้องยึดหลักการว่าของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯตรัสไว้ว่าการพัฒนาที่ถูกต้อง ต้อง “เข้าถึง เข้าใจ และพัฒนา เพราะจากประสบการณ์ของตนเรียนว่าผู้แทนราษฎรคือเงาสะท้อนของประชาชน เป็นผลผลิตของประชาชน ตนไม่ได้ห้ามแก้กติกาทางการเมือง แต่อยากให้แก้ที่ต้นเหตุเพราะนักการเมืองเป็นแค่ปลายเหตุ ราษฎรเป็นอย่างไรผู้แทนก็เป็นอย่างนั้น ดังนั้นจึงควรแก้ที่ราษฏรโดยสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมา ซึ่งความเลวร้ายของการเมืองขณะนี้อยู่ที่การซื้อเสียง เมื่อกฎหมายแก้ไม่ได้ผล ก็ต้องแก้ไขด้วยวิธีธรรมชาติ คือทำให้คนซื้อไม่อยากซื้อเสียง เพราะเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า โดยให้มีการเลือกตั้งใหม่ทุก 2 ปี ถ้าเป็นผู้แทนกันแค่ 2 ปีจะถอนทุนทันหรือไม่ ดังนั้นรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีควรอยู่ไม่เกิน 4 ปี โดยนายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงและดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัยติดต่อกัน
ประยุทธ์นั่งหัวโต๊ะถกร่วมคสช.-ครม.พรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันพรุ่งนี้(24ก.พ.) เวลา 09.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะเป็นประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 3/2558 ที่ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล และจากนั้นจึงจะเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ตามปกติ และต่อจากนั้นเวลา 14.00 น. คณะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมครม.ที่ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้วาระในการประชุมร่วมคสช.และครม.นั้น ในส่วนของคสช.จะเน้นในเรื่องของการติดตามงานที่มอบหมายให้รัฐบาลไปดำเนินการตามโร๊ดแมพที่วางไว้โดยเฉพาะเรื่องของการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ ในส่วนของงบลงทุนที่ยังพบว่าไม่เป็นไปตามเป้าและมีความล่าช้าในหลายกระทรวงซึ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ รวมทั้งจะมีการประเมินสถานการณ์ความมั่นคงในประเทศในภาพรวมด้วย
ที่มา: www.komchadluek.net
0 comments:
Post a Comment