Home » » วันตรุษจีน

วันตรุษจีน

Written By Unknown on Friday, 19 February 2010 | 22:35


ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ แปลว่า สวัสดีปีใหม่ ขอให้เจริญรุ่งเรือง สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ที่รัก อย่าทำหน้างงอย่างนั้นสิคะ บางคนอาจจะงงว่าคุณครูลิลลี่ลืมคืนลืมวันลืมเวลาหรือเปล่า มาสวัสดีปีใหม่เอาเกือบปลายเดือนกุมภาพันธ์ ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ คุณครูลิลลี่กำลังสวัสดีปีใหม่จีน หรือ วันตรุษจีนต่างหาก ปีนี้ วันตรุษจีน พ.ศ.2558 ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ และเนื่องในวันสำคัญแบบนี้คุณครูลิลลี่ก็มีเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับวันตรุษจีนมาฝากค่ะ ตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เพราะชาวจีนถือว่า วันตรุษจีน คือวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ดังนั้นชาวจีนจึงให้ความสำคัญกับเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง และมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ซึ่งในแต่ละพื้นที่ก็จะมีพิธีเฉลิมฉลองแตกต่างกันไป ย้ำกันอีกทีนะคะ ว่าสำหรับปี 2558 นี้ วันตรุษจีนตรงกับวันที่ 19 กุมภาพันธ์ค่ะ

มาถึงความรู้อีกอย่างหนึ่งเกี่ยวกับวันตรุษจีนที่คุณครูลิลลี่เอามาฝากก็คือ เรื่องของวันสำคัญ 3 วันในช่วงเทศกาลนี้ก็คือ เรื่องของวันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว หลายคนเคยได้ยินแต่สับสนว่าเรียงลำดับก่อนหลังอย่างไร จำง่าย ๆ นะคะ เหมือนบ้านเราไม่มีอะไรเลย ไม่มีของไหว้อะไรสักอย่างเดียว เพราะฉะนั้นก็ไหว้ก็ต้องออกไปจับจ่ายซื้อของเสียก่อน ซื้อเสร็จแล้วก็มาไหว้ เมื่อไหว้เสร็จก็ได้เวลาออกไปเที่ยวนั่นเองค่ะ สรุปอีกทีนะคะ วันจ่าย หรือ ตื่อเส็ก จะเป็นวันที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจะต้องไปหาซื้ออาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ต่าง ๆ มาเตรียมพร้อมไว้ ก่อนที่ร้านค้าต่าง ๆ จะหยุดยาวในช่วงวันตรุษจีน ซึ่งจะตรงกับวันก่อนวันสิ้นปี โดยในปี 2558 นี้ วันจ่ายตรุษจีนคือวันอังคาร ที่ 17 กุมภาพันธ์ ส่วนวันไหว้ของเทศกาลตรุษจีนก็คือ “วันสิ้นปี” ซึ่งจะเป็นวันที่มีการไหว้เทพเจ้าต่าง ๆ ด้วยอาหาร ผลไม้ เครื่องเซ่นไหว้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติ โดยในปี 2558 นี้ วันไหว้ตรุษจีน คือ วันพุธ ที่ 18 กุมภาพันธ์ และสุดท้ายคือ วันเที่ยวสำหรับชาวจีนก็คือ “วันปีใหม่” หรือ “วันตรุษจีน” ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 19 กุมภาพันธ์นั่นเอง และเป็น “วันถือ” ด้วย โดยในวันนี้ชาวจีนจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวยงาม พากันออกไปท่องเที่ยว และไปไหว้ขอพรญาติผู้ใหญ่ หรือผู้ที่เคารพรัก ชาวจีนจะถือว่าวันนี้เป็นวันแห่งสิริมงคล และงดทำบาปทั้งปวงค่ะ

คุณครูลิลลี่เพิ่มเติมเกี่ยวกับความรู้ของวันตรุษจีนอีกนิดนะคะ คำว่า ตรุษ ถ้าดูตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า เทศกาลเนื่องในการสิ้นปี ถ้าเป็นวันตรุษไทยกำหนดตามจันทรคติ ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 4 ส่วนที่มาของคำว่า ตรุษ สันนิษฐานว่ามาจากภาษาสันสกฤต คือ ตฺรุฏิ แปลว่า ตัดขาด หรือมาจากคำว่า ตฺรุษ ที่แปลว่า ยินดี ตรุษ เป็นวันสิ้นปีทางจันทรคติ ตามประเพณีไทยเมื่อถึงวันตรุษ ชาวบ้านจะพากันไปทำบุญตักบาตรที่วัด ถ้าถามคุณครูลิลลี่นะคะ ก็พอจะอธิบายความเป็นมาของคำว่า "ตรุษ" ที่แปลว่า ตัด หรือ ขาด ได้ว่าหมายถึงตัดปีเก่าที่ล่วงมาแล้วให้ขาดไปนั่นเอง แถมท้ายให้อีกนิดนะคะเกี่ยวกับสัญลักษณ์ของ วันตรุษจีน ที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ “อั่งเปา” ซึ่งมีความหมายว่า “กระเป๋าแดง” หรือจะใช้คำว่า “แต๊ะเอีย” ซึ่งมีความหมายว่า “ผูกเอว” ก็ได้ จริง ๆ คุณครูลิลลี่เคยอธิบายความแตกต่างของ 2 คำนี้ไปหลายครั้งแล้ว ลองไปค้น ๆ หากันดูนะคะว่าต่างกันอย่างไร (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็น ไทยรัฐออนไลน์ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว นั่นเอง) เอาเป็นว่าใครหาเจอขอให้ได้อั่งเปาเยอะ ๆ ได้แต๊ะเอียแยะ ๆ นะคะ สุขสันต์วันปีใหม่จีนอย่างเป็นทางการอีกครั้งค่ะ สวัสดีค่ะ

ที่มา: thairath.co.th

0 comments:

Post a Comment

Popular Posts

Powered by Blogger.