พาทิสเซอรีสาวหน้าใสคนนี้มีชื่อเล่นน่ารักๆ ว่า “กระต่าย” เมื่อได้คุยกันจึงรู้ว่าก่อนที่จะมาเป็นเชฟขนมนั้น เธอเรียนจบและทำงานทางด้านการตลาดมาโดยตรง แต่ไหงทำเซอร์ไพรส์กลายมาเป็นเชฟขนมได้อย่างในตอนนี้ล่ะ เราไปคุยกับเธอกัน
“จริงๆ แล้วต่ายจบมาทางด้านการตลาดค่ะ คือเรียนจบปริญญาตรี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากนั้นก็ทำงานด้านการตลาดที่บริษัทแห่งหนึ่งเป็นเวลา 1 ปี แล้วจึงไปเรียนต่อปริญญาโทสาขาการตลาดและโฆษณาที่ London School of Business and Finance ประเทศอังกฤษค่ะ ช่วงที่ไปเรียนต่ายต้องอยู่หอพักคนเดียว ซึ่งอาหารฝรั่งที่นั่นไม่ค่อยจะถูกปากเรานัก ต่ายก็เลยทำอาหารกินเองทุกวันเลยค่ะ”
เมนูอาหารไทยที่เชฟกระต่ายทำเป็นประจำก็คือ แกงเขียวหวาน และแกงส้ม เพราะเครื่องปรุงอาหารไทยหาได้ง่ายในย่านไชน่าทาวน์ของลอนดอน ถ้าเมนูไหนไม่ค่อยแน่ใจเธอก็จะโทรมาถามคุณแม่ที่เมืองไทยอยู่บ่อยๆ ส่วนขนมฝรั่ง เธอบอกว่า รสชาติที่หนักทั้งนม เนย และครีมนั้นไม่ค่อยจะถูกปากเธอสักเท่าไหร่ เธอก็เลยหัดทำขนมกินเองด้วยเช่นกัน
“ขนมที่ต่ายทำกินเองก็จะมี เค้กช็อกโกแลตหน้านิ่ม คุกกี้ บราวนี่ กลีบลำดวน เจลลี่ และเต้าฮวย เป็นต้น ขนมหลายอย่างทำได้ไม่ยาก ยกเว้นเค้ก เพราะระหว่างที่ทำจะมีบางครั้งเค้กที่เราอบมันฟูเกินไปบ้าง หรือมันลีบเกินไปบ้าง ต่ายจึงเกิดคำถามว่า ทำไมตอนที่เราทำเค้กแต่ละครั้ง มันถึงไม่มีมาตรฐานที่แน่นอนซึ่งสามารถทำให้เค้กออกมาหน้าตาดี สวยงาม และรสชาติอร่อยได้เท่าๆ กันทุกครั้งบ้างนะ”
กระทั่งเมื่อเรียนปริญญาโทจบและเดินทางกลับมาเมืองไทย กระต่ายจึงตัดสินใจไปเรียนทำขนมเพิ่มเติมจากสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต โดยเทกคอร์สทั้งหมดเป็นเวลา 9 เดือน แล้วต้องเรียน 3 ระดับด้วยกัน ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีการสอบเลื่อนระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ก่อนจบหลักสูตรก็จะมีการทำโปรเจกต์โดยให้คิดสูตรเค้กขึ้นมาเองด้วย เรียกว่าได้ทั้งเทคนิคในการทำเค้กและขนมต่างๆ เพิ่มขึ้น แล้วยังได้เรียนรู้เทคนิคในการเก็บรักษาวัตถุดิบในการทำเค้กติดตัวมาด้วย
อ่านเพิ่มเติมที่
ที่มา: posttoday.com
0 comments:
Post a Comment